จตุพร ย้อนแสบ ทักษิณ ท่านก็หมา ถ้านับบรรดาศักดิ์ของหมู่หมาก็เป็น จ่าฝูง

นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน และอดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์ ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “เชื่อมั่น…ประชาชน” โดยนายจตุพร กล่าวว่า ตนกับ ทักษิณ รู้จักกันมาตั้งแต่ปี 2527 เมื่อครั้งทักษิณ เป็นหัวหน้าพลังธรรมวันแรก จากนั้นร่วมเดินสายการเมืองด้วยกันมา 30 ปี ถ้าหากตนคิดเอาแต่ตัวเองแล้วก็เอาประโยชน์ส่วนตน แล้วจะอยู่ร่วมกันไม่ได้เลย แม้ทักษิณบอกสาธารณะ จะให้เป็น รมต. แต่ไม่ได้ ตนก็ยังอยู่รวมทั้งไม่คิดถึงกรณีนี้

เหนืออื่นใดแล้ว การต่อสู้ทางการเมืองที่ผ่านมามีความตายมากมาย ตำแหน่ง รมต. เป็นหัวโขนเล็กมาก เมื่อเทียบกับความตายของประชาชน กระทั่งถึง พรรคเพื่อไทยจะออก พรบ.สุดซอย ตนรับได้ยากมาก เพราะว่าต้องการให้นิรโทษกรรมเฉพาะประชาชนที่กำลังติดคุก แต่รัฐบาลไม่ยอมออกพระราชกำหนด (พรก.) กลับมาออกเป็น พรบ. แทน แล้วไปแปลงสาร ขยับเพิ่มให้นิรโทษกรรมแกนนำและก็พ่วงคดีโกงเพื่อให้เป็นประโยชน์กับทักษิณได้กลับบ้าน

สิ่งสำคัญ ตนทักทวงว่า ถ้าหากนิรโทษฯ นอกเหนือประชาชนแล้ว มันจะล้มครืนลง แล้วประชาชนจะติดคุก และก็จะไม่มีโอกาสอีกเลย เขาก็ไม่ฟัง แล้วไปกล่าวที่ประเทศนอร์เวย์ว่า ตนไม่ต้องการให้ทักษิณกลับบ้าน อีกทั้งที่ในวงพูดคุยยุทธศาสตร์ของพรรคมีรองนายกฯ และ รมต. แล้วก็ พี่เปียเห็นด้วยกับตนว่า อย่าเอาเรื่องคนอื่นนอกจากประชาชนมา หากเอาทักษิณกลับบ้านต้องทำวาระอื่น แต่วาระนี้ต้องตอบแทน ประชาชน ส่วนที่ตายและก็บาดเจ็บเอาชีวิตแล้วก็ร่างกายกลับคืนมาไม่ได้ แต่คนกำลังสูญเสียเสรีภาพ นี่เป็นโอกาสเดียวเท่านั้น แล้วท่านก็โกรธ

“ผมอยากถามทักษิณว่า ตอนทำเรื่องนิรโทษฯ สุดซอย มีใครไปพบท่านแล้วอยู่กับท่าน ในวงการเขานินทากัน มีเครื่องบินลอยละล่องกันเป็นลำ แต่ทั้งหมดเมื่อไปไม่ได้ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มากล่าวที่หลังว่า เมื่อไปไม่ได้ก็คิดว่าจะกลับมาได้ วันนั้นผมจิตใจสลาย เพราะ จะไม่มีเหตุการณ์ชุมชนของประชาชนเต็มถนนหนทางเลยหากเอาเฉพาะประชาชน แต่ไม่ฟังเพราะมองเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว”

ทักษิณ จตุพร

นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ ทักษิณ พูดว่า ช่วง 16 ปีท่านก็ถูกเห่า

นับตนเป็นตัว และก็ให้ฉายาให้ ตนเองว่า ถูกเห่า ท่านพูดว่าไม่ต้องมาฟังตน ให้ใช้น้ำยาล้างหูไป ก็พยายามเลี่ยง แล้วใช้ถ้อยคำว่า ถูกเห่ามา 16 ปี 2-3 ตัวรวมทั้ง บางตอนก็ 4-5 ตัว มีการนับเป็นตัว เขาบอกภาษาไทย ไม่แข็งแรง แล้วหัวเราะกันสนุกสนาน

“ผมกับนายกฯทักษิณ ปราศรัยเวทีเดียวกัน มาในช่วงอยู่ประเทศไทย และผ่านวีดีโอลิงค์ ต่างกรรมต่างวาระกัน มายาวนานที่สุด หากการพูดของผมเป็นการเห่า บนเวทีนี้ท่านก็ร่วมเห่ากับผมด้วย ถ้าหากผมหมา ท่านก็หมา ท่านอาจเป็น จ่าฝูง ถ้าเกิดนับบรรดาศักดิ์ของหมู่หมาด้วยกัน”

นายจตุพร ย้ำว่า ถ้าหลักคิด ของทักษิณมองดูผู้ร่วมต่อสู้ด้วยกันเป็นหมา เป็นตัว แล้วหลีกเลี่ยง การตอบความจริง ฉะนั้นท่านต้องคิดช้า ๆ ว่า สิ่งที่ท่านดำเนินการทั้งหมดไปนั้น ถ้าตรงไปตรงมา กับประชาชน และไม่พูดถึงตนในทางเป็นเท็จและก็เกิดความเสียหายในช่วงนี้ แล้วตนจะมากล่าวเรื่องนี้ในช่วงนี้เพราะเหตุใด

นอกเหนือจากนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา หากตนคิดถึงผลประโยชน์แล้วจะอยู่กับท่านได้อย่างไร เนื่องจาก ท่านหักหลังตนตลอดเวลา โป้ปดมดเท็จซ้ำๆซากๆ พูดปดแล้วโกหกใหม่ซ้ำกันไปซ้ำกัน อย่างไรก็ตาม ตนต้องไปก่อนการยึดอำนาจ เพราะว่าหักกันเรื่องนิรโทษฯ สุดซอย ทั้งเรื่องส่วนตัวก็โป้ปดมดเท็จ และก็ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลง ไม่ว่าเรื่องลงนามรับรองศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) และก็เรื่องแก้ รธน. รวมทั้งการโกงฉ้อราษฎร์บังหลวง

รวมถึงย้ำว่า ตนกล้ำกลืน ต้องการรักษาความรู้สึกของพี่น้องเสื้อแดง เพราะเขาตาย เขาเจ็บ หลังการสลายชุมนุม (ปี 2553) ตนตระเวณทุกพื้นที่ท่ามกลางความตาย แต่ทักษิณเสนอให้หนี แต่ตนไม่หนี ซึ่งขณะนั้นเสื้อแดงแล้วก็ พรรคเพื่อไทยตกต่ำที่สุด พวกเราก็พากันพลิกฟื้น แล้วก็ชีวิตตลอดเส้นทางนั้น ถ้าเกิดตนจะเอาตัวรอด ก็ต้องเอาตัวรอดแล้ว แต่เพราะอะไรตนก็เลยลุกขึ้นยืนสู้ต่อ

“ตลอดเวลาที่ท่านหักหลังผมนั้น ถ้าผมคิดเรื่องส่วนตัว ผมจะมาสู้ที่อักษะต่อหรือ? จนกระทั่งกระทั่งมาเห็นมีการสมคบคิด ในเรื่องการรัฐประหาร ทักษิณไม่รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปี 2553 หรือ? และ (ยิ่งกว่าสิ่งใด) ชัยชนะที่ประชาชนแลกชีวิต ด้วยเลือดเนื้อมาให้นั้น เป็นการแบกความหวังไว้ทั้งผอง

นายจตุพร กล่าวว่า ในเรื่อง ICC ก็ไม่กล้ารับ เนื่องจากกลัว พล.อ.ประยุทธ์ จะยึดอำนาจ แล้วท้ายที่สุดมา สลายคนเสื้อแดง เพื่อไปพึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งที่การชุมนุมตกลงแบ่งกันทำงาน เสื้อแดงคุมเวที พรรคเพื่อไทยจัดระดม ประชาชนมาชุมนุม แล้ววันหนึ่งจากคนเป็นหมื่น แล้วมาเหลือหลักร้อยจะให้คิดกันว่าอย่างไร กระทั่งวันที่ 21 พฤษภาคม พล.อ.ประยุทธ์ เรียกเจรจา แล้ว 22 เดือนพฤษภาคม 2557 ก็ยึดอำนาจ

อย่างไรก็ตาม ตนยังบากหน้ากล้ำกลืน เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจ ตนยังวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ ถูกนำตัวไปปรับทัศนคตินับไม่ถ้วน และเป็นแกนนำคนเดียว ที่ถูกถอนประกัน อยู่ในคุกติดเชื้อในกระแสเลือดเกือบตาย ออกจากคุกจะมีการตัดสิน คดีจำนำข้าว ก็เอาตนเข้าคุกด้วยคำตัดสิน ของศาลฎีกาทั้งยังที่ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ยกฟ้อง เมื่อออกคุกมาก็ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ในนานไทย ไม่ทนก็ถูกขังคุกอีกในคดีเดิมที่ปล่อยตัวมาแล้ว ทั้งเดือนหน้า (ก.พ.) ตนก็จะถูกคดีฟ้องยึดบ้าน และล่าสุดจะถูกฟ้อง เพิ่มเติมอีกคดีจากเหตุการณ์เมื่อ 14 ปีที่แล้ว

“ถ้า 8 ปีนี้ ผมเอาเพียงแค่ที่ท่าน (ทักษิณ) หักหลังผม ไปแสวงหาผลประโยชน์ กับรัฐบาล คสช. ผมก็ไม่ต้องติดคุก ผมก็ไม่ต้องลำบาก ผมก็ไม่ต้องมีคดีมากมาย เนื่องจากว่าพวกเรายืนหลักในความถูกต้องตลอดเวลา ทั้งยังฝ่ายเดียวกันไปทำผิดพลาด ผมก็กล้ำกลืน ถ้าเกิดผมคิดประโยชน์ส่วนตัวแล้ว ผมจะอยู่แบบนี้หรือ?”

อีกอย่าง การต่อสู้ของเราเป็นมาต่อเนื่อง นั่งจัดรายการต่าง ๆ เพื่อต้องการหยุดอำนาจ 3 ป. ออกไปชุมนุมในนามคณะหลอมรวม ประชาชนก็เพื่อหยุดอำนาจ 3 ป. เพื่อหาทางออกให้ประเทศไทย แล้วมีเรื่องอะไร ไปสกัดแลนด์สไลด์ของทักษิณ

พร้อมกล่าวว่า ท่านรู้หมดว่า ใครคุยอะไรกับใครที่อยู่ประเทศไทย คนไปคุยกับท่านที่ประเทศนอก ตนก็ทราบหมดแบบเดียวกัน ในประเทศไทยด่าทอกันเกือบตาย ในช่วงทำสงคราม อะไรก็ใช้ไม่ได้ ไอ้นี่เหล่านี้ ไอ้นั่นพวกนั้น ลงคะแนนเสร็จไอ้พวกนี่และคนพวกนั้นไปพบท่าน แวดล้อมไปหมด มันตำตาตนทั้งหมด

“ผมอยากจะบอกนายกฯทักษิณ ที่ท่านบอกถูกเห่า ผมจะบอกท่านว่า หากผมหมา ท่านก็คือหัวหน้าหมา แล้วเราพูด ภาษาหมากันมานานแล้ว หมามันมีคุณสมบัติข้อหนึ่ง (นิ้วเคาะโต๊ะเสียงดัง) คือเรื่องความซื่อตรง ท่านยังเป็นหมาไม่ได้เลย หรือเป็นหมาที่ใช้ไม่ได้ เนื่องจากว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดนั้น คือความซือสัตย์ระหว่างกัน เพราะว่าแลกเปลี่ยนชีวิตแล้วก็ตายได้ตลอดเวลา ถ้าเกิดมองเห็นแก่ตัวก็ต้องหนีตามท่านสิ ประเพณีนี้เมื่อหัวหน้าหนีก็จะดี เมื่อผมไม่หนีก็เป็นตัวแปลกอยู่แล้ว”

จตุพร

นายจตุพร กล่าวว่า ที่ไม่หนีเพราะต้องการทวงความยุติธรรม

ให้ประชาชนที่ตาย และเดินทางทักทายแลกเปลี่ยนชีวิตมาตลอด แต่หลายคนที่ถูกท่านประณาม ดูถูก ในไทยก็ไปเจอท่านที่ต่างประเทศ ด้วยเหตุดังกล่าว เหตุที่ไม่ตอบ ทักษิณก็อธิบายได้ อย่าอ้างเรื่องกฎหมายหมิ่นประมาท แต่มีข้อเท็จจริงมันปรากฎด้วยคำพูดมาแล้ว อีกทั้งเรื่องเสียงปืนนัดแรกดังจะกลับมา แต่เสียงปืนผ่านไปสองแสนนัด ประชาชนตายเป็นร้อยศพท่านก็ไม่กลับมา

นอกเหนือจากนี้ ทักษิณยังพูดถึงพายเรือไปส่ง เสื้อแดงไม่ต้องตามมา เพราะเหตุว่าการกล่าวเช่นนี้เป็นการแลกกับข้อแม้ จะได้กลับบ้าน เพราะท่านคุยกับตัวเองจำได้หรือไม่ เพราะฉะนั้น ทุกอย่างท่านยอมแลกเปลี่ยนได้ตลอดเวลา และก็ทราบว่าท่านทำอะไรได้บ้าง อีกอย่างก็รู้ดีว่า ตนไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยดีนักหรอก

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การมาด้อยค่าตน เย้ยดูถูกเป็นคนคิดคด หักหลัง ทั้งที่ทักษิณเป็นคนหักในการต่อสู้ตลอดเวลา หากแม้ท่านรับปาก ประกาศให้ได้ยินกันทั่วๆไป แต่คนที่รักกันอย่างหน้ามืดตามัวก็กล่าวว่า ทักษิณพูดผิดสักกี่ครั้งก็ได้ เหมือนบอกกลับบ้านปี 2565 ไม่ได้กลับก็บอกเป็นเรื่องระบบฟอกเลือด ท่านก็ไปของท่านอีก

“ท่านหลีกหลีกเลี่ยงตอบว่า จะประสานมือกับพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือไม่ ก็มากล่าวในประเด็นว่า เรื่องจะกลับประเทศไทยจะไม่ออกกฎหมาย จะไม่เกี๊ยะซียะ (รอมชอม) กับพลังประชารัฐ รวมทั้งไม่ใช้ พรรคเพื่อไทยด้วย ผมต้องเรียกไปยังนายกฯ ทักษิณว่า ผมได้ยินมาอยู่แล้ว หลายวันที่ผ่านมาคงจำกันได้ ผมว่ามันมีดีล (ข้อตกลงลับ) หนึ่ง ซึ่งเป็นดีลที่ไม่ควร และก็ไม่ควรจะดีล แล้วก็ไม่มีวันจะเป็นไปได้อีก แล้วก็นี่หนักกว่าสุดซอย เพราะหนึ่งเป็นเรื่องไม่เหมาะสม สองยิ่งกว่าการลักหลับ และก็จะกลายคือปัญหาใหญ่ แต่ผมขอไม่อนุญาตอธิบายความ”

นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้ทักษิณ ต้องคดีถึงที่สุดแล้ว แต่คดีหลังไม่มีอายุความ มีคำพิพากษารวมโทษประมาณ 12 ปี ดังนั้น ในทางกฎหมาย เมื่อทักษิณกลับไทยต้องถูกจับกุมตัวส่งศาล แล้วเข้าคุก แต่มีข้อเท็จจริงบ้างประการว่า มีดีลพิเศษ แต่ไม่มีวันเป็นไปได้ เพราะว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควร และก็ตอนสุดซอยที่ใช้ลักหลับแต่ครั้งนี้จะลักหลับของจริง ที่อธิบายเรื่องนี้ เนื่องจากว่าตนพยายามหลีกหลีกเลี่ยงถ้อยคำภาษา

ยิ่งกว่านั้น ดีลพิเศษนี้ ความเป็นจริงก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องแลนด์ สไลด์ของพรรคเพื่อไทย หลายคนพยายามตั้งคำถามว่า อยู่ดีๆมาพูดเรื่องนี้ไปรับงานใครมา ทั้งที่สุดทนมาตั้งแต่ถูกหลอกใช้ให้ไปพบเสียงช่วยพรรคเพื่อชาติเมื่อปี 2562 ส่วน นปช.อีกกลุ่มก็แยกไปช่วยพรรคไทยรักษาชาติ แล้วมาล่าสุดการเดินสายหาเสียงช่วย นายก อบจ เชียงใหม่ ก็ขาดสะบั้น ใจสลายเลย

“เราอยู่ท่ามกลางความเจ็บปวดอยู่แล้ว ถ้าไม่มาดูแคลน ผมก่อน โดยดูแคลนว่า ไปรับงานใครมา แล้วผมก็ตอบกลับด้วยตรรกะเดียวกับทักษิณไปบอกที่ฮองกงนั้นว่า ท่านไปรับงานใครมาที่มาดูแคลนผม แต่ท่านไม่เข้าใจว่า มนุษย์ยอมตาย แลกชีวิตกันได้มันมีเรื่องศักดิ์ศรีของมันอยู่ ดูถูกบ่อยมากจนกระทั่งได้ใจ ไม่นึกว่าสักวันหนึ่งมันจะทนไม่ได้เอานะ

“เมื่อมาเหยียบอีก ถ่มน้ำลายใส่ ก็สุดทนเลย อีกทั้งที่ถูกดูถูกดูหมิ่น ทำอยุติธรรมกับผมมานานแล้ว รวมทั้งที่สำคัญที่สุดไม่ยุติธรรมกับประชาชนมานานแล้ว และก็ใครมันจะทนได้ หักหลังกันตลอดทางมา 30 ปีตั้งแต่คบกัน”

จตุพร ย้อนแสบทักษิณ

นายจตุพร ย้ำว่า วันนี้ไม่ได้รับงานใครมา

ถ้าทักษิณไม่พูดถึงตนก่อนในลักษณะที่ดูแคลนลาน เรื่องนี้ก็ไม่เกิดขึ้น เมื่ออกมากล่าว แต่ไม่ตอบโต้ กลับใช้วิธีกระแนะกระแหน อธิบายยัดเยียดว่า รับงานใครมา แล้วตนจะติดคุกหรึอ? เข้า ๆ ออก ๆ คุกมีคดีความมากมายกว่าแกนนำทุกคน

นายนิติธร กล่าวว่า เข้าใจรู้สึกและก็รู้ถึงเรื่องราว จึงเข้าใจมากขึ้นว่า เพราะเหตุใดเพื่อไทย-ทักษิณ ไม่ออกมาตอบโต้ เป็นเนื่องจากกล้วความจริงจะหลั่งไหล ออกมามากมาย ดังนั้น ทักษิณก็เลยต้องเบียงเบนไปทางเยาะเหยียดหยามเท่านั้น

พร้อมด้วยกล่าวว่า ที่ฟังมานั้น การที่นายจตุพร ไม่หนีคดีจึงก่อปัญหา กับตนเอง เนื่องจากว่าทักษิณหนี คดีก็เลยต้องการให้ทุกคนหนีหมด ไม่ต้องการให้ใครมายึดโยงประชาชน รวมทั้งไม่ต้องการให้ทราบในสิ่งที่เขาทำกับประชาชน

“พอไม่หนีคดี แล้วไปอ้างต้องดูแลประชาชน มันจึงทำให้ความรู้สึกประชาชนต้อง แบกน้ำหนัก แล้วก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นคู่แค้นและเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก และก็หนักใจกับคดีชุมนุม”